An image

จากการที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)ได้ขยายขอบข่ายการทำงานด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรผลักดันโครงการนโยบายรัฐตามแนวทางประชารัฐเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อย ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย และสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยให้ผู้สูงอายุ รวมไปถึงการร่วมมือกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดทำโครงการเพื่อสร้างโอกาสให้กลุ่มข้าราชการ ผู้สูงอายุ และผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ล่าสุดเมื่อปลายเดือนเมษายน 2560 ที่ผ่านมาได้เชิญผู้ประกอบการอสังหาฯพบปะประจำปีเพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดี รับฟังข้อเสนอแนะ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ กว่า 40 บริษัท ที่ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ร่วมกับ ธอส. ในการทำให้คนไทยมีบ้านตามพันธกิจของธนาคาร ซึ่ง ธอส. จะนำความเห็นของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไปปรับปรุงคุณภาพการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น และจัดทำผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าในยุคไทยแลนด์ 4.0 ต่อไป โดยถือเป็นอีกกลยุทธ์ที่เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน เพื่อที่จะทำให้ ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อในปี 2560 ที่จำนวน 178,224 ล้านบาทได้ตามเป้าที่วางไว้

 

โยนเผือกร้อนธอส.เร่งลดยอดรีเจค

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสร เปิดเผยว่า  ต้องยอมรับว่า ธอส.เป็นมิตรกับผู้ประกอบการทุกเวลา หากในช่วงที่ธนาคารพาณิชย์ไม่ปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้า ธอส.ก็เป็นที่พึ่งของผู้ประกอบการมาโดยตลอด และการที่ธอส.เปลี่ยนแปลงระบบการทำงานให้มีความทันสมัย มีการนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น ทั้งในด้านการปล่อยสินเชื่อที่เริ่มมีความรวดเร็ว ซึ่งธอส.ได้ขานรับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการทำให้ผู้ซื้อมีบ้านอยู่อาศัยเป็นของตนเอง ถือว่าเป็นนโยบายที่ดี แต่เรื่องของการพิจารณาสินเชื่อทั้งระบบในปัจจุบันนี้ยังมีอัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน(รีเจค)ที่สูงมากขึ้นถึงประมาณ 40% จึงอยากให้ธอส.ลองไปคิดโปรแกรมเพื่อที่จะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้

 

ทั้งนี้ส่วนใหญ่ลูกค้าที่ไม่ค่อยผ่านการพิจารณาจากสถาบันการเงินจะเป็นผู้ที่มีอาชีพอิสระ รวมไปถึงธุรกิจเอสเอ็มอี ที่รัฐบาลให้การส่งเสริม  ซึ่งกลุ่มดังกล่าวจะไม่มีหลักฐานเงินเดือน ทั้งๆที่มีกำลังซื้อมากกว่ากลุ่มที่ทำงานประจำที่มีหลักฐานเงินเดือน ซึ่งได้แนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาไปว่าสถาบันการเงินอาจจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยบวกค่าความเสี่ยงแล้วกับกลุ่มผู้มีอาชีพอิสระ เพื่อแก้ไขปัญหาลดการเกิดหนี้เสีย และลดความกังวลใจของสถาบันการเงินได้ ซึ่งธอส.ก็รับไปพิจารณา แต่ไม่ทราบว่าจะสามารถนำไปปฏิบัติได้มากน้อยเพียงใด

 

หวังรัฐออกมาตรการกระตุ้นอีกรอบ

ด้านนายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิลท์แลนด์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ภายหลังจากที่ธอส.ได้รับนโยบายจากรัฐบาลว่า “ไม่ใช่มีหน้าที่เป็นสถาบันเพื่อหาผลกำไร แต่ต้องทำให้คนไทยได้มีบ้านเป็นของตนเอง” ดังนั้นจึงเริ่มบุกงานด้านบริการให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นทำให้ผู้ประกอบการมีความมั่นใจในการให้บริการมากขึ้น เช่น หากลูกค้าโครงการของบริษัทรายไหนไม่ผ่านการพิจารณาขอสินเชื่อ ธอส.ก็จะรีบแจ้งให้ผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของโครงการนั้นๆทราบทันที ถึงสาเหตุของการกู้ไม่ผ่าน และจะช่วยหาแนวทางในการแก้ไขใหม่ เพื่อให้ลูกค้ารายนั้นๆสามารถกู้สินเชื่อจนผ่านไปได้

 

จากการที่ได้มีผู้ประกอบการบางรายได้นำเสนอให้ธอส.ปรับกฎเกณฑ์ในการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้มีอาชีพอิสระได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองบ้าง เพราะกลุ่มดังกล่าวโดยความจริงแล้วมีรายได้และมีความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยมากกว่าผู้ที่มีเงินเดือนประจำมาก ซึ่งในประเด็นดังกล่าวตนเห็นด้วยเป็นอย่างมาก

 

“เชื่อว่าในปลายปีนี้ตลาดรวมอสังหาฯจะเริ่มฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ และเป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกับอีกหลายธุรกิจ ซึ่งทุกรัฐบาลมักจะให้ความสำคัญมาโดยตลอด และเชื่อว่าในเร็วๆนี้ภาครัฐอาจจะออกมาตรการมากระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาฯอย่างแน่นอน”นายชัยรัตน์ กล่าว

 

แนะผ่อนกฎปล่อยสินเชื่อผู้มีรายได้อิสระ

นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า  ปัจจุบัน ธอส.ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น มีแคมเปญให้ลูกค้าได้เลือกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งถือว่าทำได้ดีกว่าแบงก์พาณิชย์อื่นๆ นอกจากนี้ธอส.เองก็ยังเดินหน้าที่จะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ เพื่อบริการให้กับลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

 

แต่สิ่งที่อยากเสนอแนะธอส.คือเรื่องการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ที่มีอาชีพอิสระ จากเดิมที่ใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบและสำรวจข้อมูลเพียงไม่กี่วัน ก็อาจจะจ้างทีมงานจากภายนอกองค์กรเพื่อไปดูกิจการของผู้มีอาชีพอิสระที่ขอยื่นกู้เป็นรายๆไป แม้จะใช้ระยะเวลาที่นานกว่า แต่ก็เชื่อว่าจะได้ผลดี เพราะกลุ่มที่มีอาชีพอิสระส่วนใหญ่มีรายได้และกำลังซื้อมากกว่ากลุ่มผู้มีเงินเดือนประจำเสียอีก  จึงอยากให้ธอส.นำเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาด้วย

 

คงต้องรอลุ้นกันว่าข้อเสนอแนะของบรรดาผู้ประกอบการที่เสนอแนวทางเลือกให้กับธอส.นั้นจะสัมฤทธิ์ผลและเป็นไปได้หรือไม่

 

** prop2morrow โดย คุณวาสนา กลั่นประเสริฐ  เบอร์โทร.02-632-0645 E-mail : was_am999@yahoo.com