ประเดิมศักราชใหม่ “บ้านลุมพินี” รุกตลาดทาวน์เฮาส์ย่านรังสิต ส่ง “บ้านลุมพินี ทาวน์วิลล์ รังสิต คลอง ๒” มูลค่ากว่า 450 ล้านบาท เป็นโปรเจคแรกของปีตอกย้ำความคุ้มค่าของ“บ้านน่าอยู่”ใส่ใจคุณภาพชีวิตในการอยู่อาศัยโดยทีมงานลุมพินี พร้อมเร่งสปีดงานก่อสร้างให้ทันลูกค้าเข้าอยู่ปีนี้ รองรับการขยายโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง (รังสิต-บางซื่อ-หัวลำโพง) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (คูคต-ลำลูกกา) ราคาเริ่ม 1.69 ล้าน ดีเดย์ 21 ม.ค.นี้ 

 

นายจรัญ เกษร กรรมการผู้จัดการบริษัท พรสันติ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการแนวราบ “บ้านลุมพินี” เปิดเผยว่า ในวันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2560 นี้ บริษัทมีแผนการพัฒนาโครงการใหม่ย่านรังสิต ภายใต้ชื่อโครงการ “บ้านลุมพินี ทาวน์วิลล์ รังสิต คลอง ๒” โดยโครงการดังกล่าวเหมาะที่จะพัฒนาที่พักอาศัยระดับคุณภาพ เนื่องจากแวดล้อมไปด้วยแหล่ง ช้อปปิ้งสำหรับคนเมือง สถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีการเดินทางที่สะดวกสบาย ทั้งทางรถยนต์และเส้นทางเดินเรือในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ (อยู่ระหว่างดำเนินการ)  สามารถเชื่อมต่อไปยังท่าอากาศยานดอนเมืองได้อย่างรวดเร็ว และใกล้โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง (รังสิต-บางซื่อ-หัวลำโพง) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (คูคต-ลำลูกกา) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ ทำเลในย่านรังสิตยังเป็นแหล่งงานที่มีศักยภาพของภาครัฐและเอกชน ทั้งยังใกล้กับสถานศึกษาหลายแห่ง  ซึ่งจากการศึกษาพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว พบว่ามีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสนใจอยากมีบ้านเป็นของตัวเองอยู่อีกมากและเพื่อตอบโจทย์ความต้องการบ้านของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนี้บริษัทจึงมั่นใจพัฒนาบ้านที่สมบูรณ์พร้อมในราคาที่เหมาะสม ภายใต้แนวคิด “บ้านน่าอยู่” ในแนวทาง “บ้านดี สิ่งแวดล้อมดี ดูแลดี ผู้คนดี” อีกทั้งยังนำคุณค่าด้านการบริหารจัดการที่ดี โดยทีมบริหารงานมืออาชีพจากบริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด มาร่วมกันดูแลและบริการหลังการขาย

 

บ้านลุมพินี ทาวน์วิลล์ รังสิต คลอง ๒ ราคาเริ่มต้นที่ 1.69 ล้านบาท เป็นทาวน์เฮาส์ขนาด 2 ชั้น จำนวน 262 หลัง รวมมูลค่า 450 ล้านบาท พร้อมที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอยประมาณ 105 ตารางเมตร ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องอาหาร  และห้องครัวไทย โดยบ้านทุกหลังมีการวางระบบมาตรฐานต่างๆ เพื่อความสมบูรณ์ของบ้านที่พร้อมสำหรับการเข้าอยู่อาศัยอาทิ ปั้มน้ำและถังขนาด 1,000 ลิตร, ท่ออัดน้ำยากำจัดปลวกครอบคลุมพื้นที่อาคารชั้นล่าง, ระบบระบายอากาศภายในห้องน้ำ, ระบบ LAN และสายอากาศทีวี, ระบบสายไฟบนฝ้าสำหรับติดตั้งเครื่องปรับอากาศ, ระบบไฟฟ้านิรภัยรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นห้องน้ำชั้นบน, หลังคาเมทัลชีทแบบคลิปล็อคกันรั่วซึม พร้อมแผ่นสะท้อนความร้อน เป็นต้น

 

สำหรับแผนการดำเนินงานหลังจากนี้บริษัทจะมีการขยายโครงการต่อทันทีในย่านท่าข้าม-พระราม2,ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้าและลาดปลาดุกประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี เพราะทำเลดังกล่าวมีระดับความต้องการที่อยู่อาศัยของลูกค้าเป็น จำนวนมาก ทั้งยังภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในปัจจุบันเองก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นด้วยการสนับสนุนนโยบายส่งเสริมด้านอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*